บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เรียนรู้พุทธศาสนสุภาษิตกันเถอะ ^^

พุทธศาสนสุภาษิตจะแยกออกเป็นหมวดหมู่ ดังต่อไปนะค่ะเพื่อนๆ !!

 หมวดบุคคลวรรค-หมวดบุคคล

01.(คำบาลี) สาธุ โข ปณฺฑิโต นาม
    (คำอ่าน) สาธุ โข ปัณดิโต นามะ
    (คำแปล) ชื่อว่าบัณฑิตย่อมทำประโยชน์ให้สำเร็จได้แล

02.(คำบาลี) ปฌฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน ชลํ อคฺคีว ภาสติ
    (คำอ่าน) ปัดดิโต สีละสัมปันโน ชะลัง อัคคีวะ ภาสะติ
    (คำแปล) บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมรุ่งเรืองเหมือนไฟสว่าง

03.(คำบาลี) อนตฺถํ ปริวชฺเชติ อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต
    (คำอ่าน) อะนัตถัง ปะริวัดเชติ อัตถัง คัณหาติ ปัณดิโต
    (คำแปล) บัณฑิตย่อมเว้นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์

04.(คำบาลี) ทนฺโต เสฎฺโฐ มนุสฺเสสุ
    (คำอ่าน) ทันโต เสตะโถ มะนุสเสสุ
    (คำแปล) ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด

05.(คำบาลี)กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ
    (คำอ่าน) กุสะโล จะชะหาติ ปาปะกัง
    (คำแปล) คนฉลาดย่อมละบาป

06.(คำบาลี) นยํ นยติ เมธาวี
    (คำอ่าน) นะยัง นะยะติ เมธาวี
    (คำแปล) คนมีปัญญา ย่อมแนะนำทางที่ควรแนะนำ

07.(คำบาลี) ธีโร โภเค อธิคมฺม สงฺคณฺหาติ จ ญาตเก
    (คำอ่าน) ธีโร โภเค อะธิคัมมะ สังคัณหาติ จะญาตะเก
    (คำแปล) ผู้มีปรีชาได้โภคะแล้ว ย่อมสงเคราะห์หมู่ญาติ

08.(คำบาลี) สนฺโต น เต เย น วทนฺติ ธมฺมํ
    (คำอ่าน) สันโต นะเตเยนะ วะทันติ ธัมมัง
    (คำแปล) ผู้ใดไม่พูดเป็นธรรม ผู้นั้นไม่ใช่สัตบุรุษ

09.(คำบาลี) สนฺโต สตฺตหิเต รตา
    (คำอ่าน) สันโต สัตตะหิเต ระตา
    (คำแปล) สัตบุรุษยินดีในการเกื้อกูลสัตว์

10.(คำบาลี) ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ หิมวนฺโตว ปพฺพโต   
    (คำอ่าน) ทูเร สันโต ปะกาเสนติ หิมะวันโตวะ ปับพะโต
    (คำแปล) สัตบุรุษทั้งหลายย่อมปรากฏได้ในที่ใกล เหมือนภูเขาหิมพานต์

11.(คำบาลี) สนฺโต สคฺคปรายนา
    (คำอ่าน) สันโต สัคคะปะรายะนา
    (คำแปล) สัตบุรุษมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า

12.(คำบาลี) อุปสนฺโต สุขํ เสติ
    (คำอ่าน) อุปะสันโต สุขัง เสติ
    (คำแปล) ผู้สงบใจได้ ย่อมนอนเป็นสุข

13.(คำบาลี) สตญจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ
    (คำอ่าน) สะตะญะจะ คันโธ ปติวาตะเมติ
    (คำแปล) กลิ่นของสัตบุรุษย่อมหอนทวนลมได้

14.(คำบาลี) โย พาโล มญฺญติ พาลฺยํ ปณฺฑิโต วาปิ เตน โส
    (คำอ่าน) โยพาโล มันญะติ พาลยัง ปัณดิโต วาปิ เตนะโส
    (คำแปล) คนซึ่งรู้สึกตนว่าโง่ จะเป็นผู้ฉลาดเพราะเหตุนั้นได้บ้าง

15.(คำบาลี) อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ รตฺติขิตฺตา ยถา สรา
    (คำอ่าน) อะสันเตตตะถะ นะ ทิดสันติ รัตติขิตตา ยะถา สะรา
    (คำแปล) อสัตบุรุษ แม้นั่งอยู่ในที่นี้เองก็ไม่ปรากฎ เหมือนลูกศรที่ยิงไปกลางคืน ฉะนั้น

16.(คำบาลี) อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ
    (คำอ่าน) อะสันโต นิระยัง ยันติ
    (คำแปล) อสัตบุรุษย่อมไปนรก

17.(คำบาลี) สุวิชาโน ภวํ โหติ
    (คำอ่าน) สุวิชาโน ภะวัง โหติ
    (คำแปล) ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ

18.(คำบาลี) ครุ โหติ สคารโว
    (คำอ่าน) คะรุโหติ สะคาวะโร
    (คำแปล) ผู้เคารพย่อมมีผู้เคารพตอบ

19.(คำบาลี) วนฺทโก ปฎิวนฺทนํ
    (คำอ่าน) วันทะโก ปะติวันทะนัง
    (คำแปล) ผู้ไหว้ย่อมได้รับไหว้ตอบ

20.(คำบาลี) เนกาสี ลภเต สุขํ
    (คำอ่าน) เนกาสี ละภะเต สุขัง
    (คำแปล) ผู้กินคนเดียวไม่ได้ความสุข

21.(คำบาลี) นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต
    (คำอ่าน) นัตถิ โลเก อะนินทิโก
    (คำแปล) คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก

22.(คำบาลี) อติติกฺโข จ เวรวา
    (คำอ่าน) อะติติกโข จะเวระวา
    (คำแปล) คนแข็งกระด้างก็มีเวร

23.(คำบาลี) น อุชุภูตา วิตถํ ภณนฺติ
    (คำอ่าน) นะอุชุภูตา วิตะถัง ภะนันติ
    (คำแปล) คนตรงไม่พูดคลาดความจริง

24.(คำบาลี) อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ
    (คำอ่าน) อาหุไน๊ยยา จะปุดตานัง
    (คำแปล) มารดาบิดาเป็นที่นับถือของบุตร

25.(คำบาลี) ปุพพาจริยาติ วุจฺจเร
    (คำอ่าน) ปุบพาจะริยาติ วุดจะเร
    (คำแปล) มารดาบิดาท่านว่าเป็นบูรพาจารย์ (ของบุตร)

26.(คำบาลี) ภตฺตา ปญฺญาณมิตฺถิยา
    (คำอ่าน) ภัตตา ปัญญาณะมิตถิยา
    (คำแปล) สามีเป็นเครื่องปรากฏของสตรี

27.(คำบาลี) สุสฺสูสา เสฏฺฐา ภริยานํ
    (คำอ่าน)สุดสูสา เสดตะถา  ภะริยานัง
    (คำแปล)บรรดาภริยาทั้งหลาย ภริยาผู้เชื่อฟัง เป็นผู้ประเสริฐ

28.(คำบาลี) โย จ ปุตฺตา นมสฺสโว
    (คำอ่าน) โยจะปุตตา นะมัสสะโว
    (คำแปล) บรรดาบุตรทั้งหลาย บุตรผู้เชื่อฟังเป็นผู้ประเสริฐ

29.(คำบาลี) คุณวา จาตฺตโน คุณ
    (คำอ่าน) คุณะวา จาตตะโน คุณะ
    (คำแปล) ผู้มีความดี จงรักษาความดีของตนไว้

30.(คำบาลี) อจฺจยํ เทสยนฺตีนํ โย เจ น ปฎิคณฺหติ
    (คำอ่าน) อัดจะยัง เทสะยันตีนัง โยเจนะ ปะติคัณหะติ
    (คำแปล) เมื่อเขาขอโทษ ถ้าผู้ใดมีความขุ่นเคือง

31.(คำบาลี) โกปนฺตโร โทสครุ ส เวรํ ปฎิมจฺจติ
    (คำอ่าน) โกปันตะโร โทสะคะรุ สะเวรัง ปะติมัดจะติ
    (คำแปล)โกรธจัด ไม่ยอมรับ ผู้นั้นชื่อว่า หมกเวรไว้

32.(คำบาลี) เอวํ กิจฺฉาภโต โปโส ปิตุ อปริจารโก
    (คำอ่าน) เอวัง กิดฉาภะโต โปโส ปิตุ อะปะริจาระโก
    (คำแปล) ผู้ที่มีมารดาบิดาเลี้ยงมาได้โดยยากอย่างนี้

33.(คำบาลี) ปิตริมิจฺฉาจริตฺวาน นิรยํ โส อุปปชฺชติ
    (คำอ่าน) ปิตะริมิดฉา จะริตวานะ นิระยังโส อุปปัดชะติ
    (คำแปล) ไม่บำรุงมารดาบิดา ประพฤติผิดในมารดาบิดา ย่อมเข้าถึงนรก

34.(คำบาลี) เตชวาปิ หิ นโร วิจกฺขโณ สกฺกโต พหุชนสฺส ปูชิโต
    (คำอ่าน) เตชะวาปี หินะโร วิจักขะโณ สักกะโต พะหุชะนัสสะ ปูชิโต
    (คำแปล)ถีงเป็นคนมีเดช มีปัญหาเฉียบแหลม อันคนเป็นอันมากสักการบูชา

35.(คำบาลี) นารีนํ วสงฺคโต น ภาสติ ราหุนา อุปหโตว จนฺทิมา
    (คำอ่าน) นารีนัง วะสังคะโต นะภาสะติ ราหุนาอุปะหะโตวะ จันทิมา
    (คำแปล) อยู่ในอำนาจสตรีเสียแล้วย่อมไม่รุ่งเรือง เหมือนพระจันทร์ถูกพระราหูบังฉะนั้น

36.(คำบาลี) ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ หิมวนฺโตว ปพฺพโต
    (คำอ่าน) ทูเรสันโต ปะกาเสนติ หิมะวันโตวะ ปับพะโต
    (คำแปล) สัตบุรุษทั้งหลายย่อมปรากฎได้ในที่ใกล เหมือนภูเขาหิมวันต์

37.(คำบาลี) อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ รตฺติขิตฺตา ยถา สรา
    (คำอ่าน) อะสันเตตะถะ นะทิดสันติ รัตติขิตตา ยะถา สะรา
    (คำแปล) อสัตบุรุษทั้งหลายถึงในที่นี้ก็ไม่ปรากฏ เหมือนลูกศรที่ยิงไปกลางคืน ฉะนั้น

38.(คำบาลี) ธีโร โภเค อธิคมฺม สงฺคณฺหาติ จ ญาตเก
    (คำอ่าน) ธีโรโภเค อะธิคัมมะ สังคัณหาติ จะยาตะเก
    (คำแปล) ผู้มีปรีชาได้โภคะแล้ว ย่อมสงเคราะห์หมู่ญาติ

39.(คำบาลี) เตน โส กิตฺตึ ปปฺโปติ เปจฺจ สคฺเค ปโมทติ
    (คำอ่าน) เตนะโส กิตติง ปับโปติ เปดจะ สัคเค ปะโมทะติ
    (คำแปล) เพราะการสงเคราะห์นั้น เขาย่อมได้เกียรติ ละไปแล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์

40.(คำบาลี) มธุวา มญฺญตี พาโล ยาว ปาปํ น ปจฺจติ
    (คำอ่าน) มะธุวา มัญญะตี พาโล ยาวะ ปาปัง นะปัดจะติ
    (คำแปล) ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน

41.(คำบาลี) ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ อถ ทุกฺขํ นิคจฺฉติ
    (คำอ่าน) ยะทา จะปัดจะตี ปาปังอะถะ ทุกขัง นิคัดฉะติ
    (คำแปล) แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น

42.(คำบาลี) ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ กุสเลน ปิถียติ
    (คำอ่าน) ยัสสะปาปัง กะตังกัมมัง กุสะเลนะ ปิถียะติ
    (คำแปล) ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี

43.(คำบาลี) โสมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา
    (คำอ่าน) โสมัง โลกัง ปะภาเสติ อับภา มัตโตวะ จันทิมา
    (คำแปล) ผู้นั้นย่อมยังโลกให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆ

44.(คำบาลี) ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย นิสีเทยฺย สเยยฺย วา
    (คำอ่าน) ยัสสะ รุกขัดสะ ฉายายะ นิสีไท็ยยะ สะไย็ยยะวา
    (คำแปล) บุคคลนั่งหรือนอน (อาศัย) ที่ร่มเงาตันไม้ใด

45.(คำบาลี) น ตสฺส สาขํ ภญฺเชยฺย มิตฺตทุพฺโพ หิ ปาปโก
    (คำอ่าน) นะตัสสะ สาขัง ภันไช็ยยะ มิตตะทุบโพ หิปาปะโก
    (คำแปล) ไม่ควรรานกิ่งต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตร เป็นคนเลวทราม

46.(คำบาลี) โย มาตรํ ปิตรํ วา มจฺโจ ธมฺเมน โปสติ
    (คำอ่าน) โยมาตะรัง ปิตะรัง วามัดโจ ธัมเมนะ โปสะติ
    (คำแปล) ผู้ใดย่อมเลี้ยงมารดาบิดาโดยธรรม

47.(คำบาลี) อิเธว นํ ปสํสนฺติ เปจฺจ สคฺเค ปโมทติ
    (คำอ่าน) อิเธวะนัง ปะสังสันติ เปดจะ สัคเค ปะโมทะติ
    (คำแปล) บัณฑิตย่อมสรรเสริญผู้นั้นในโลกนี้ เขาละไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์

48.(คำบาลี) อกฺโกธโน อนุปนาหี อมกฺขี สุทฺธตํ คโต
    (คำอ่าน) อักโกธะโน อะนุปะนาฮี อะมักขี สุดธะตัง คะโต
    (คำแปล) ผู้ใดไม่โกรธ ไม่ผูกโกรธ ไม่ลบหลู่ ถึงความหมดจด

49.(คำบาลี) สมฺปนฺนทิฏฺฐิ เมธาวี ตํ ชญฺญา อริโย อิติ
    (คำอ่าน) สัมปันนะทิตะถิ เมธาวี ตังชัญญา อะริโย อิติ
    (คำแปล) มีทิฏฐิสมบูรณ์ มีปัญญา, พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นอริยะ

50.(คำบาลี) อนาคตปฺปชปฺปาย อตีตสฺสานุโสจนา
    (คำอ่าน) อะนาคะตับปะชับปายะ อะตีตัสสานุโสจะนา
    (คำแปล) คนเขลาย่อมซูบซีด เพราะคำนึงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง

51.(คำบาลี) เอเตน พาลา สุสฺสนฺติ นโฬว หริโต ลุโต
    (คำอ่าน) เอเตนะ พาลา สุดสันติ นะโลวะ หะริโตลุโต
    (คำแปล) เพราะเศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว เหมือนต้นอ้อสดที่ถูกตัด

52.(คำบาลี) อนุทฺธโต อจปโล นิปโก สํวุตินฺทฺริโย
    (คำอ่าน) อะนุดธะโต อะจะปะโล นิปะโก สังวุตินทะริโย
    (คำแปล) คนฉลาด ไม่ฟุ่งซ่าน ไม่คลอนแคลน มีปัญญา

53.(คำบาลี) กลฺยาณมิตฺโต เมธาวี ทุกฺขสฺสนฺตกโร สิยา
    (คำอ่าน) กันยานะมิตโต เมธาวี ทุกขัดสันตะกะโร สิยา
    (คำแปล) สำรวมอินทรีย์ มีมิตรดี พึงทำที่สุดทุกข์ได้

54.(คำบาลี) อปฺปสฺสาทา ทุกฺขา กามา อิติ วิญฺญาย ปณฺฑิโต
    (คำอ่าน) อับปัดสาทา ทุกขากามา อิติวินยายะ ปันดิโต
    (คำแปล) กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก

55.(คำบาลี) อปิ ทิพฺเพสุ กาเมสุ รตึ โส นาธิคจฺฉติ
    (คำอ่าน) อะปิ ทิบเพสุ กาเมาสุ ระติงโส นาธิคัดฉะติ
    (คำแปล) บัณฑิตรู้ดังนี้แล้ว ไม่ใยดีในกามแม้เป็นทิพย์

56.(คำบาลี) อโยเค ยุญฺชมตฺตานํ โยคสฺมิญฺจ อโยชยํ
    (คำอ่าน) อะโยเค ยุนชะมัดตานัง โยคัดมินจะ อะโยชะยัง
    (คำแปล) ผู้ประกอบตนในสิ่งที่ไม่ควรประกอบ และไม่ประกอบตนในสิ่งควรประกอบ

57.(คำบาลี) อตฺถํ หิตฺวา ปิยคฺคาหี ปิเหตตฺตานุโยคินํ
    (คำอ่าน) อัตถัง หิตตะวา ปิยัคคาฮี ปิเหตัดตานุโยคินัง
    (คำแปล) ละประโยชน์เสีย ถือตามชอบใจ ย่อมกระหยิ่มต่อผู้ประกอบตนเนืองๆ

58.(คำบาลี) อสตญฺจ สตญฺจ ญตฺวา ธมฺมํ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก
    (คำอ่าน) อะสะตันจะ สะตันจะ ยัตตะวา ธัมมัง อัดชัดตัง พะหิดธา จะสับพะโลเก
    (คำแปล) ผู้ใดรู้ธรรมของอสัตบุรุษและของสัตบุรุษ ทั้งภายใน ทั้งภายนอก

59.(คำบาลี) เทวมนุสฺเสหิ จ ปูชิโต โย โส สงฺคชาลมติจฺจ โส มุนิ
    (คำอ่าน) เทวะมะนุดเสหิ จะปูชิโต โยโส สังคะชาละมะติดจะ โส มุนิ
    (คำแปล) มีเทวดาและมนุษย์บูชาในโลกทั้งปวง ผู้นั้นจึงล่วงข่ายคือเครื่องข้องได้ และเป็นมุนี

60.(คำบาลี) อากาเสว ปทํ นตฺถิ สมโณ นตฺถิ พาหิโร
    (คำอ่าน) อากาเสวะ ปะทัง นัตถิ สะมะโน นัตถิ พาหิโร
    (คำแปล) สมณะภายนอกไม่มี, สังขารเที่ยงไม่มี

61.(คำบาลี) สงฺขารา สสฺสตา นตฺถิ นตฺถิ พุทฺธานมิญฺชิตํ
    (คำอ่าน) สังขารา สัดสะตา นัตถิ นัตถิ พุดธานะมินชิตัง
    (คำแปล) ความหวั่นไหวของพระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่มี, เหมือนรอยเท้าไม่มีในอากาศ

62.(คำบาลี) อุฏฺฐานวโต สตีมโต สุจิกมฺมสฺส นิสมฺมการิโน
    (คำอ่าน) อุตะถานะวะโต สะตีมะโต สุจิกัมมัดสะ นิสัมมะการิโน
    (คำแปล) เกียรติยศย่อมเจริญแก่ผู้ขยัน มีสติ มีการงานสะอาด

63.(คำบาลี) สญฺญตสฺส จ ธมฺมชีวิโน อปฺปมตฺตสฺส ยโสภิวฑฺฒติ
    (คำอ่าน) สันยะตัสสะ จะธัมมะชีวิโน อุบปะมัดตัสสะ ยะโสพิวัดทะติ
    (คำแปล) ใคร่ครวญแล้วจึงทำ สำรวมแล้ว เป็นอยู่โดยธรรม และไม่ประมาท

64.(คำบาลี) ชยํ เวรํ ปสวติ ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต
    (คำอ่าน) ชะยังเวรัง ปะสะวะติ ทุกขัง เสติ ปะราชิโต
    (คำแปล) ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์

65.(คำบาลี) อุปสนฺโต สุขํ เสติ หิตฺวา ชยปราชยํ
    (คำอ่าน) อุปะสันโต สุขัง เสติ หิตตะวา ชะยะปะราชะยัง
    (คำแปล) คนละความชนะและความแพ้ได้แล้ว สงบใจได้ ย่อมนอนเป็นสุข

66.(คำบาลี) ตสฺมา สตญฺจ อสตญฺจ นานา โหติ อิโต คติ
    (คำอ่าน) ตัดสะมา สะตันจะ อะสะตันจะ นานาโหติ อิโตคะติ
    (คำแปล) เพราะธรรมของสัตบุรุษยากที่อสัตบุรุษจะประพฤติตาม

67.(คำบาลี) อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ สนฺโต สคฺคปรายนา
    (คำอ่าน) อะสันโต นิระยัง ยันติ สันโต สักคะปะรายะนา
    (คำแปล)คติที่ไปจากโลกนี้ของสัตบุรุษและอสัตบุรุษจึงต่างกัน, คืออสัตบุรุษไปนรก, สัตบุรุษไปสวรรค์

68.(คำบาลี) ตสฺมา หิ ธีโร อิธุปฏฺฐิตาสติ กาเม จ ปาเป จ อเสวมาโน
    (คำอ่าน) ดัสสะมา หิธีโร อิทุปะตะถิตาสะติ กาเมจะปาเป จะอะเสวะมาโน
    (คำแปล) เพราะนักปราชญ์มีสติตั้งมั่นในธรรมวินัยนี้ ไม่เสพกามและบาป

69.(คำบาลี) สหาปิ ทุกฺเขน ชเหยฺย กาเม ปฏิโสตคามินี ตมาหุ ปุคฺคลํ
    (คำอ่าน) สะหาปิ ทุกเขนะ ชะไห็ยยะ กาเม ปะติโสตะคามินี ตะมาหุ ปุกคะลัง
    (คำแปล) พึงละกามทั้งทุกข์ได้ ท่านจึงกล่าวบุคคลนั้นว่า ผู้ไปทวนกระแส

70.(คำบาลี) ทุทฺททํ ททมานานํ ทุกฺกรํ กมฺมกุพฺพตํ
    (คำอ่าน) ทุดทะทัง ทะทะมานานัง ทุกกะรัง กัมมะกุบพะตัง
    (คำแปล) เมื่อสัตบุรุษให้สิ่งที่ให้ยาก ทำกรรมที่ทำได้ยาก, อสัตบุรุษย่อมทำตามไม่ได้

71.(คำบาลี) อสนฺโต นานุกุพฺพนฺติ สตํ ธมฺโม ทุรนฺวโย
    (คำอ่าน) อะสันโต นานุกุบพันติ สะตัง ธัมโม ทุรันวะโย
    (คำแปล) เพราะธรรมของสัตบุรุษยากที่อสัตบุรุษจะประพฤติตาม

72.(คำบาลี) น ชจฺจา วสโล โหติ น ชจฺจา โหติ พฺราหฺมโณ
    (คำอ่าน) นะชัดจา วะสะโลโหติ นะชัดจา โหติ พรามโน
    (คำแปล) บุคคลเป็นคนเลวเพราะชาติก็หาไม่ เป็นผู้ประเสริฐเพราะชาติก็หาไม่

73.(คำบาลี) กมฺมุนา วสโล โหติ กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ
    (คำอ่าน) กัมมุนา วะสะโลโหติ กัมมุนาโหติ พรามโน
    (คำแปล) เป็นคนเลวเพราะการกระทำ เป็นผู้ประเสริฐก็เพราะการกระทำ

74.(คำบาลี) นิฏฺฐํ คโต อสนฺตาสี วีตตณฺโห อนงฺคโณ
    (คำอ่าน) นิตะถัง คะโต อะสันตาสี วีตะตันโห อะนังคะโน
    (คำแปล) บุคคลถึงความสำเร็จแล้ว (พระอรหันตผล) ไม่สะดุ้ง ปราศจากตัณหา

75.(คำบาลี) อจฺฉินฺทิ ภวสลฺลานิ อนฺติโมยํ สมุสฺสโย
    (คำอ่าน) อัดฉินทิ ภะวะสันลานิ อันติโมยัง สะมุดสะโย
    (คำแปล) ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน ตัดลูกศรอันจะนำไปสู่ภพได้แล้ว ร่างกายจึงชื่อว่า มีในที่สุด

76.(คำบาลี) ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ อหึสา สญฺญโม ทโม
    (คำอ่าน) ยัมหิ สัดจันจะ ธัมโม จะอะหิงสา สันยะโม ทะโม
    (คำแปล) ผู้ใดมีความสัตย์ มีธรรม มีความไม่เบียดเบียน มีความสำรวม และมีความข่มใจ

77.(คำบาลี) ส เว วนฺตมโล ธีโร โส เถโรติ ปวุจฺจติ
    (คำอ่าน) สะเว วันตะมะโล ธีโรโส เถโรติ ปะวุดจะติ
    (คำแปล)ผู้นั้นแล ชื่อว่า ผู้มีปัญญา หมดมลทิน เขาเรียกท่านว่า เถระ

78.(คำบาลี) ยทา ทุกฺขํ ชรามรณนฺติ ปณฺฑิโต อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชชนา
    (คำอ่าน) ยะทา ทุกขัง ชะรามะระนันติ ปันดิโต อะวิดทะสู ยัตถะสิตา ปุถุชะชะนา
    (คำแปล) เมื่อใด บัณฑิตรู้ว่า ชราและมรณะเป็นทุกข์ กำหนดรู้ทุกข์ซึ่งเป็นที่อาศัยแห่งปุถุชน

79.(คำบาลี) ทุกฺขํ ปริญฺญาย สโต ว ฌายติ ตโต รตึ ปรมตรํ น วินฺทติ
    (คำอ่าน) ทุกขัง ปะรินยายะ สะโตวะ ชายะติตะโต ระติง ปะระมะตะรัง นะวินทะติ
    (คำแปล) มีสติเพ่งพินิจอยู่ เมื่อนั้น ย่อมไม่ประกอบความยินดีที่ยิ่งกว่านั้น

80.(คำบาลี) เย เกจิ กาเมสุ อสญฺญตา ชนา อวีตราคา อิธ กามโภคิโน
    (คำอ่าน) เยเกจิ กาเมสุ อะสันยะตา ชะนา อะวีตะราคา อิธะ กามะโภคิโน
    (คำแปล) คนบางพวกเหล่าใด ไม่สำรวมในกาม ยังไม่ปราศจากราคะ เป็นผู้บริโภคกามในโลกนี้

81.(คำบาลี) ปุนปฺปุนํ ชาติชรูปคา หิ เต ตณฺหาธิปนฺนา อนุโสตคามิโน
    (คำอ่าน) ปุนับปุนัง ชาติชะรูปะคา หิเต ตันหาธิปันนา อะนุโสตะคามิโน
    (คำแปล) คนเหล่านั้นถูกตัณหาครอบงำ ลอยไปตามกระแส (ตัณหา) ต้องเป็นผู้เข้าถึงชาติชราร่ำไป

82.(คำบาลี) เย จ โข พาลา ทุมฺเมธา ทุมฺมนฺตี โมหปารุตา
    (คำอ่าน) เยจะโข ลาพา ทัมเมธา ทัมมันตี โมหะปารุตา
    (คำแปล) คนเหล่าใดเขลา มีปัญญาทราม มีความคิดเลว ถูกความหลงปกคลุม

83.(คำบาลี) ตาทิสา ตตฺถ รชฺชนฺติ มารกฺขิตฺตสฺมิ พนฺธเน
    (คำอ่าน) ตาทิสา ตัตถะ รัดชันติ มารักขิตตัสมิ พันธะเน
    (คำแปล) คนเช่นนั้น ย่อมติดเครื่องผูกอันมารทอดไว้นั้น

84.(คำบาลี) เย จ สีเลน สมฺปนฺนา ปญฺญายูปสเม รตา
    (คำอ่าน) เยจะ สีเลนะ สัมปันนา ปันยายูปะสะเม ระตา
    (คำแปล) ผู้มีปัญญาเหล่าใด ประกอบด้วยศีล ยินดีในความสงบด้วยปัญญา

85.(คำบาลี) อารกา วิรตา ธีรา น โหนฺติ ปรปตฺติยา
    (คำอ่าน) อาระกา วิระตา ธีรานะ โหนติ ปะระปัดติยา
    (คำแปล) ผู้มีปัญญาเหล่านั้น เว้นไกลจากความชั่วแล้ว ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น

86.(คำบาลี) เย ฌานปสุตา ธีรา เนกฺขมฺมูปสเม รตา
    (คำอ่าน) เยชานะปะสุตา ธีรา เนกะขัมมูปะสะเม ระตา
    (คำแปล) ผู้มีปัญญาเหล่าใด ขวนขวายในฌาน ยินดีในความสงบอันเกิดจากเนกขัมมะ

87.(คำบาลี) เทวาปิ เตสํ ปิหยนฺติ สมฺพุทฺธานํ สตีมตํ
    (คำอ่าน) เทวาปิเตสัง ปิหะยันติ สัมพุดธานัง สะตีมะตัง
    (คำแปล) เทวดาทั้งหลายก็พอใจต่อผู้มีปัญญา ผู้รู้ดีแล้ว มีสติเหล่านั้น

88.(คำบาลี) โรสโก กทริโย จ ปาปิจฺโฉ มจฺฉรี สโฐ
    (คำอ่าน) โรสะโก กะทะริโย จะปาปิดโฉ มัดฉะรี สะโถ
    (คำแปล) ผู้ใดเป็นคนขัดเคือง เหนียวแน่น ปรารถนาลามก ตระหนี่

89.(คำบาลี) อหิริโก อโนตฺตปฺปี ตํ ชญฺญา วสโล อิติ
    (คำอ่าน) อะหิริโก อะโนตะตับปีตัง ชันยาวะสะโล อิติ
    (คำแปล) โอ้อวด ไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวบาป พึงรู้ว่า ผู้นั้นเป็นคนเลว

90.(คำบาลี) โสจติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา โคมิโก โคหิ ตเถว โสจติ
    (คำอ่าน) โสจะติ ปุดเตหิ ปุดติมา โคมิโก โคหิ ตะเถวะ โสจะติ
    (คำแปล)ผู้มีบุตรย่อมเศร้าโศกเพราะบุตร, ผู้มีโคย่อมเศร้าโศกเพราะโคเหมือนกัน

91.(คำบาลี) อุปธีหิ นรสฺส โสจนา น หิ โส โสจติ โย นิรูปธิ
    (คำอ่าน) อุปะธีหิ นะรัดสะ โสจะนา นะหิโส โสจะติ โยนิรูปะธี
    (คำแปล) นรชนมีความเศร้าโศกเพราะอุปธิ, ผู้ใด ไม่มีอุปธิ ผู้นั้น ไม่ต้องเศร้าโศกเลย

92.(คำบาลี) มหากรุณิโก นาโถ
    (คำอ่าน) มะหากะรุนิโก นาโถ
    (คำแปล) ท่านผู้เป็นที่พึ่ง ประกอบด้วยกรุณายิ่งใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น